เมื่อการเดินทางไปโรงพยาบาลคือ “การเพิ่มความเสี่ยงให้กับผู้สูงอายุ”

และหากไปดูอัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วยที่มีอายุ 70 ปีขึ้นไปก็สูงถึง 9.6%

ทำให้เราตระหนักได้เลยว่า ผู้สูงอายุนั้นมีโอกาสติดเชื้อมากกว่าคนทั่วไป...

ในฐานะลูกหลานอย่างเราจึงต้องดูแลพวกท่านเป็นพิเศษ โดยการยึดตามหลัก 5 อ. นั่นก็คืออาหาร ออกกำลังกาย เอนกายพักผ่อน อารมณ์ และออกห่างจากสังคม เช่น การให้ผู้สูงอายุเก็บตัวอยู่บ้าน เพื่อให้ห่างไกลพื้นที่ที่มีผู้คนแออัด ซึ่งจริงอยู่ที่ว่า วิธีนี้ช่วยลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อได้ แต่วิธีนี้ก็อาจส่งผลให้สมองและร่างกายของผู้สูงอายุถดถอยลงไปโดยไม่รู้ตัวเช่นกัน

ดังนั้นการดูแลที่ให้ความสำคัญด้าน “อารมณ์” จึงเป็นสิ่งที่ลูกหลานควรทำในเวลานี้ อย่างการหมั่นสังเกตพฤติกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวัน เช่น ท่านกินน้อยลง พูดน้อยลง มีอารมณ์หงุดหงิดง่าย น้ำหนักลด หรือตกดึกแล้วนอนไม่หลับ สิ่งเหล่านี้ต้องอาศัยการดูแลของคนรอบข้างให้มากๆ เพราะหากไม่ได้รับการดูแลเอาใจใส่อาจแย่ลงได้ นี่จึงเป็นที่มาว่า ทำไมเราถึงต้องดูแลใจผู้สูงอายุเป็นพิเศษ!


วันนี้เราจึงรวมรวม 5 ข้อที่คิดว่า ลูกหลานควรปฏิบัติเพื่อลดความวิตกกังวลต่อผู้สูงอายุให้มากที่สุด ท่ามกลางสถานการณ์ที่เราต้องสู้กับไวรัสโควิด-19 นี้ให้ผ่านไปให้ดีที่สุด