โพสต์นี้มีคำตอบ “ทำไมเราถึงแพ้หน้ากากอนามัย” จนหน้าพัง!

ความเป็นจริงที่เลี่ยงไม่ได้..สำหรับการสวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดวัน นานกว่า 8 ชั่วโมง

จึงเป็นที่มาของผดผื่น สิวต่างๆ อาการคันในบริเวณที่สวมหน้ากากหรือใบหู หรือบางคนมีอาการรุนแรง เช่น ตุ่มน้ำ น้ำเหลืองซึม หรือหน้าบวม ซึ่งถ้าใครเข้าข่ายมีอาการรุนแรง แนะนำให้รีบปรึกษาแพทย์นะ

สาเหตุที่พบบ่อยจาก ‘การแพ้หน้ากากอนามัย’ แบ่งได้ 3 ปัจจัยหลักๆ ดังนี้

1 การ “เสียดสี” จากขนาดหน้ากากอนามัยที่แน่นจนเกินไป

2 การ “อับชื้น” เกิดจากเครื่องสำอาง เหงื่อ หรือน้ำลาย ที่สะสมอยู่ภายใต้หน้ากากอนามัย

3 การแพ้ “สารส่วนประกอบของหน้ากากอนามัย” เช่น กาว ผ้า หรือสีย้อมผ้า เป็นต้น

ส่วนสำหรับใครที่สงสัยว่า ตนเองแพ้ส่วนประกอบของหน้ากาก แนะนำให้งดการใส่หน้ากากที่มีวัสดุชนิดนั้นๆ หรือให้หาวัสดุอื่นมารอง เพื่อเลี่ยงการสัมผัสผิวโดยตรง

วิธีดูแลและป้องกันเบื้องต้น

แนะนำให้ถอดหน้ากากอนามัยออกเพื่อระบายอากาศบ้าง (เฉพาะช่วงเวลาพักหรืออยู่คนเดียวในพื้นที่ส่วนตัว) ถือเป็นการช่วยลดปัญหาข้างต้นได้ ซึ่งถ้าจะป้องกันให้ดีที่สุด มาลองทำตามเราดู!

1 เปลี่ยนหน้ากากอนามัยระหว่างวัน หรือลองดูตามระยะการใช้งานของตนเอง

2 ทำความสะอาดผิวให้สะอาดทันทีเมื่อกลับถึงบ้าน เพื่อช่วยลดการอุดตันและการระคายเคือง แนะนำ “ครีมอาบน้ำอากงอาม่า 3 in 1” (SLS Free) อ่อนโยน ผิวไม่แห้งตึงหลังใช้ ลดการระคายเคืองได้ดี

3 เลี่ยงการแต่งหน้า หรือสำหรับใครที่เลี่ยงไม่ได้ ให้เลือกใช้ตัวที่ไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน เพราะเหงื่อกับเครื่องสำอางไม่ถูกกัน ยิ่งโบก ยิ่งร้อน สิวก็ยิ่งขึ้นค่ะ

4 บำรุงผิวให้แข็งแรงอยู่เสมอ เลือกตัวช่วยที่ช่วยเติมให้ผิวชุ่มชื้นตลอดวันแต่ไม่อุดตันเพิ่ม ด้วยครีมบำรุงผิวแบบอ่อนโยน (ที่ใช้ได้ทั้งผิวหน้าและผิวกาย) ช่วยลดอาการผิวแห้ง คัน และระคายเคืองได้อย่างมีประสิทธิภาพ

5 งดสครับหรือขัดถูผิวหน้า เพราะยิ่งขัดยิ่งเพิ่มเสียดสี จะยิ่งเพิ่มความระคายเคืองกับผิวหน้า

เท่าที่ดูหลักการดูแลจะคล้ายกับการดูแลผิวหน้าปกติ แต่มีบางอย่างที่ถ้าสามารถลดได้ช่วงนี้ก็จะดีมาก เช่น นอนดึก แต่งหน้าหนักๆ อาหารทอดหรืออาหารมัน เพราะมันจะยิ่งกระตุ้นให้เกิดการระคายเคืองหรือเกิดสิวมากยิ่งขึ้นได้

อ้างอิง สมาคมผิวหนังแห่งประเทศไทย

#อากงอาม่า #AgongAma